ประวัติความเป็น
เราเชื่อกันว่านํ้าหอมนั้นเกิดขึ้นมานานแล้ว จากหลักฐานภาพวาดจิตรกรรม ฝาผนังตอนหนึ่งที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut ที่เมือง Thebes ในประเทศ Egypt ที่เป็นรูปของหญิงสาวชาวอิยิปต์โบราณกำลังชโลมนํ้าหอมลงบนศรีษะ ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่ามีการใช้นํ้าหอมกันแล้วในยุคนั้น ซึ่งคาดว่านักเดินเรือชาวอิยิปต์ได้ไปนำมาจากดินแดนอื่น นํ้าหอมในสมัยโบราณนั้นจะทำมาจากยางไม้หอม ซึ่งยางไม้หอมแบบนี้จะมีอยู่ที่ Arabia และ Somalia เท่านั้น คำว่า "Perfume" นี้มีรากศัพท์มาจากภาษา ละติน ที่แปลว่า "ควัน"
ในกรีก (Greek) โบราณคนที่ทำนํ้าหอมนั้นจะเป็นผู้หญิง ซึ่งได้ปรับปรุงมรดกการทำนํ้าหอมที่ตกถอดมาจากชาวอียิปต์โบราณให้พัฒนาดีขึ้นไป
ในกรีก (Greek) โบราณคนที่ทำนํ้าหอมนั้นจะเป็นผู้หญิง ซึ่งได้ปรับปรุงมรดกการทำนํ้าหอมที่ตกถอดมาจากชาวอียิปต์โบราณให้พัฒนาดีขึ้นไป
ในช่วงเวลาของจักรวรรดิโรมัน (Roman) การทำนํ้าหอมเขาจะใช้ยางไม้หอมจากต้นไม้จำพวก Boswellia โดยสั่งนำเข้ามาจาก Arabia และได้บวกกับส่วนผสมที่ได้มาจากทะเลจากประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นส่วนผสมใหมที่ใส่ลงไป ในการทำนํ้าหอม ของชาวโรมันในสมัยนั้น เศรษฐีชาวโรมันจะใช้นํ้าหอมตามความพอใจ ชนิดที่เรียกได้ว่าใช้แบบล้างผลาญเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ พวกเศรษฐีเหล่านี้จะเอานํ้าหอมไปพ่น และฉีดตามพื้นและกำแพงบ้านของตัวเอง และนอกจากนี้ยังนำนํ้าหอมไปฉีดให้กับสัตว์เลี้ยงของบรรดาเศรษฐีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สุนัข และ ม้า
แต่ก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของนํ้าหอมแล้วนั้นจะเกิดขึ้นในยุคกลาง (Middle ages) เมื่อชาวอาหรับ (Arabs) ได้คิดค้นพัฒนาเทคนิคในการกลั่นนํ้าหอมได้เป็นผลสำเร็จ
พื้นที่ขนาดใหญ่โตของอาณาจักรเปอร์เซีย ได้ทำการปลูกดอกกุหลาบ เพื่อที่จะนำมาสกัดเป็นนํ้าหอม เนื้อที่ที่ใช้ปลูกดอกกุหลาบนี้ใหญ่โตมหาศาลมาก จนถึงกับมีเรื่องเล่าขานกันว่า "กรุง Baghdad" (เมืองหลวงของประเทศอิรักในปัจจุบัน) ในสมัยนั้นได้สมญานามที่เรียกขานกันว่า "City of Fragrances"
นอกจากนี้ชาวอาหรับยังได้ค้นพบส่วนผสมตัวใหม่ในการทำนํ้าหอมอีกด้วย นั่นก็คือ สารที่ได้จากตัวชะมด หรือ กลิ่นชะมดนั่นเอง ชาวอาหรับได้นำเจ้ากลิ่นชะมดนี้ไปผสมกับปูนขาว และพวกเขาก็นำปูนขาวที่ได้นี้ไปใช้สร้างสุเหร่า (Mosque) และพระราชวัง ซึ่งก็ทำให้ได้สุเหร่า และพระราชวังที่มีกลิ่นหอมไปทั่วทั้งเมือง และนี่คืออีกหนึ่งที่มาจากเรื่องเล่าถึงคำว่า "City of Fragrances" นั่นเอง
แต่ก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของนํ้าหอมแล้วนั้นจะเกิดขึ้นในยุคกลาง (Middle ages) เมื่อชาวอาหรับ (Arabs) ได้คิดค้นพัฒนาเทคนิคในการกลั่นนํ้าหอมได้เป็นผลสำเร็จ
พื้นที่ขนาดใหญ่โตของอาณาจักรเปอร์เซีย ได้ทำการปลูกดอกกุหลาบ เพื่อที่จะนำมาสกัดเป็นนํ้าหอม เนื้อที่ที่ใช้ปลูกดอกกุหลาบนี้ใหญ่โตมหาศาลมาก จนถึงกับมีเรื่องเล่าขานกันว่า "กรุง Baghdad" (เมืองหลวงของประเทศอิรักในปัจจุบัน) ในสมัยนั้นได้สมญานามที่เรียกขานกันว่า "City of Fragrances"
นอกจากนี้ชาวอาหรับยังได้ค้นพบส่วนผสมตัวใหม่ในการทำนํ้าหอมอีกด้วย นั่นก็คือ สารที่ได้จากตัวชะมด หรือ กลิ่นชะมดนั่นเอง ชาวอาหรับได้นำเจ้ากลิ่นชะมดนี้ไปผสมกับปูนขาว และพวกเขาก็นำปูนขาวที่ได้นี้ไปใช้สร้างสุเหร่า (Mosque) และพระราชวัง ซึ่งก็ทำให้ได้สุเหร่า และพระราชวังที่มีกลิ่นหอมไปทั่วทั้งเมือง และนี่คืออีกหนึ่งที่มาจากเรื่องเล่าถึงคำว่า "City of Fragrances" นั่นเอง
ในช่วงสมัยของ Crusaders ได้นำเครื่องหอมจากอาหรับไปให้ชาวยุโรปได้รู้จัก แต่สำหรับก้าวแรกของนํ้าหอม ในยุโรปนั้นเริ่มจริง ๆ ก็ในศตวรรษที่ 16 เมื่อ แคทเธอรีน เดอ เมคิชี่ (Catherine de Medici) มาที่ประเทศ Italy เพื่อที่จะแต่งงานกับอนาคตกษัตริย์ในช่วงนั้น
จากนี้ไปนํ้าหอม ก็พัฒนาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในต้นศตวรรษที่ 19 ได้มีนักเคมีได้ทำการสังเคราะห์นํ้าหอมจาก สารเคมีจนได้กลิ่นต่าง ๆ มากมายหลายพันกลิ่น จนกระทั่งนํ้าหอมได้กระจายไปทั่ว จนเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
จากนี้ไปนํ้าหอม ก็พัฒนาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในต้นศตวรรษที่ 19 ได้มีนักเคมีได้ทำการสังเคราะห์นํ้าหอมจาก สารเคมีจนได้กลิ่นต่าง ๆ มากมายหลายพันกลิ่น จนกระทั่งนํ้าหอมได้กระจายไปทั่ว จนเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
Burberry
Burberry เป็นบ้านหรู British แฟชั่นเสื้อผ้าแฟชั่นและอุปกรณ์การผลิตเช่นนาฬิกา ลายผ้าตาหมากรุกมันโดดเด่นเป็นหนึ่งในเครื่องหมายการค้าของตนกว้างมากที่สุดได้รับการยอมรับ Royal ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับสิทธิ์ให้กับ บริษัท ฯ โดย HM Queen Elizabeth II และสมเด็จ Prince of Wales
Burberry ก่อตั้งขึ้นในปี 1856 เมื่อ 21 ปี Thomas Burberry (1835-1926), ฝึกงาน draper อดีตของเปิดร้านของตัวเองใน Basingstoke, Hampshire, England Thomas Burberry เป็นจริงจินตนาการลักษณะวิญญาณผู้ประกอบการให้ความรู้สึกของการผจญภัยและหายากสำหรับการประดิษฐ์ของขวัญ มูลนิธิที่เขาก่อตั้งขึ้นสำหรับแบรนด์ Burberry ว่าหมีชื่อของเขายังคงครอง Burberry การยอมรับทั่วโลกเป็นไอคอนตรงกันกับจีรังลักษณะคุณภาพและแน่วแน่ของแท้ใหม่เอี่ยม
1870 โดยได้ก่อตั้งธุรกิจตัวเองโดยเน้นการพัฒนาเครื่องแต่งกายกลางแจ้ง ในการประดิษฐ์เสื้อคลุมยาว 1,880 Burberry, hardwearing, ผ้าน้ํายัง breathable ซึ่งในเส้นด้ายจะ waterproofed ก่อนทอ เสื้อคลุมยาวได้จดสิทธิบัตรใน 1888
ใน 1891 Burberry เปิดร้านค้าใน Haymarket, London, ที่ยังคงอยู่และเป็นเว็บไซต์ของสำนักงานใหญ่ของ Burberry ในปี 1901, Burberry ขี่ม้า Knight Logo การพัฒนาที่มีคำละติน"Prorsum"ส่งต่อความหมายและจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ใน 1911 เขาเป็น outfitters สำหรับ Ronald Amundsen, คนแรกที่ไปถึงขั้วโลกใต้และตัน Ernest ห่วงคนในปี 1914 ทำให้ไม่สำเร็จ, การเร่ง, รุ่งโรจน์ยังข้ามแอนตาร์กติกา
ขาวและสีแดงลายดำที่เรียกว่าตรวจสอบ Haymarket หรือ" classic ตรวจสอบ Burberry "ถูกใช้ครั้งแรกเป็น 1,924 ซับสำหรับสลัก Burberry ขนใน มันไม่ได้จนกว่า Burberry 1967 ที่ตรวจสอบขณะนี้เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในรายการของตัวเองรวมทั้งร่มผ้าพันคอนาฬิกาและกระเป๋าเดินทาง ในปี 1990 ตรวจสอบ Burberry เพราะเป็นที่นิยมกับแฟนฟุตบอลที่นำไปสู่ tarnishing ของภาพแบรนด์หรู แต่ยี่ห้อถูกเพิ่งเปิดใหม่อีกครั้งกับภาพหนุ่มสาวขึ้น
Burberry เป็น บริษัท อิสระจนกระทั่ง 1955 เมื่อมันถูกซื้อโดย Great ร้าน Universal (GUS) plc Burberry กลุ่มได้เริ่ม floated ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนในกรกฎาคม 2002 GUS ปั่นออกดอกเบี้ยเหลือใน Burberry ในธันวาคม 2005
เกี่ยวกับผู้แต่ง Peter Burrowes ( www.peterburrowes.co.uk ) เป็น jeweler ร่วมสมัยชั้นนำจาก Edgware ถนนในกรุงลอนดอนสหราชอาณาจักร พวกเขาขายที่หลากหลายนำแฟชั่นแบรนด์นาฬิกา jeweler รวมทั้ง Gucci, tissot, Guess, DKNY, Emporio Armani Calvin Klein, Chanel และ BurberryBurberry
Burberry Eau De Parfum Spray 50ml/1.7oz
Burberry
สเปรย์น้ำหอมธรรมชาติ Touch EDP 100ml/3.3oz
Burberry
100ml/3.4oz
Burberry
สเปรย์น้ำหอม The Beat EDP 30ml/1oz
Burberry
สเปรย์น้ำหอม Weekend EDP 50ml/1.7oz
Chanel
กำเนิด CHANEL
หากถามผู้หญิงสังคมคนใด คงมีน้อยคนที่ไม่รู้จัก brand ดังยี่ห้อChanel เพราะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือแม้แต่น้ำหอม ต่างเป็นที่นิยมในหมู่ผู้มีอัน..ทั้งหลาย เป็นที่น่าแปลกที่ Brand ดังยี่ห้อนี้อยู่คู่กายผู้หญิงบนโลกใบนี้มาเกือบ 100 ปีแล้ว (ใครจะเชื่อ) ด้วยการ Design ที่เน้นความเป็น Classic และ Elegant จึงทำให้ เสื้อผ้าของ Chanel ใส่ได้ทุกยุคทุกสมัยโดยไม่เคยตกขอบนิตยสาร Vogue เลย...วันนี้ผมอยากพาเพื่อนๆ มารู้จักความเป็นมาของ Designer ผู้โด่งดังคนนี้กันอย่างลึกขึ้นอีกเล็กน้อยChanel หรือ Gabrielle "Coco" Chanel เกิดในเมือง Saumur เมืองเล็กๆในประเทศฝรั่งเศส ปี 1883 เธอเริ่มงานด้าน Fashion ที่ Shop เล็กๆ ในกรุงปารีส และเปิดกิจการ Couture เป็นของตัวเองครั้งแรกในปี 1914 ออกแบบและตัดเย็บสูทสำหรับสตรีด้วยผ้า wool jersey ซึ่งในเวลานั้นไม่มีใครคิดจะนำผ้าชนิดนี้มาตัดสูทใส้แก่ผู้หญิง กิจการของเธอต้องหยุดชะงั้กเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 1 และเปิดอีกครั้งในปี 1919 ซึ่งในช่วงหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 นี้ เธอกลายเป้น Designer ชื่อดังที่มีแต่คนเข้ามา ไม่เว้นแต่การร่วมงานกับ นักศิลปะชื่อดังอย่าง Picasso, Diaghiley ,Cocteau หรือ Dancerชื่อดังอย่าง Serge Lifar ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลให้เธอดังขึ้นอย่างเป็นทวีคูณ ด้วยชุดกลางวันที่ดูเรียบงายแต่แผงไปด้วยความหรู ด้วยสี ขาว ดำ เบจ หรือ สีแดงกับสี pastels(สีเจอขาว) Chanel ต้องปิดกิจการอีกครั้งเมื่อ สงครามโลกครั้งที่2 และหลบไปใช้ชีวิตที่ประเทศสวิสเซอแลนด์ ช่วงปี 1939 8 ปีให้หลัง หลังจากสงครามโลกเธอตัดสินกลับสู่วงการธุกิจเสื้อผ้าอีกครั้งด้วยวัย 70 ต้นๆ ในปี1954 ผลงานของเธอในกระโปรงทรง New Look กับสายคาดเอว นำรายได้มหาศาลให้เธออีกครั้งหนึ่ง หลัง
จากนั้น Jacket ไม่มีปกเสื้อบางเบาที่มีสายผูกบริเวณคอ กระโปรงสอบยาวแค่หัวเข่า รวมถึง การประดับไข่มุก และโซ่ทองในเครื่องแต่งกายล้วนแล้วแต่เป็นที่นิยมอย่างสูงในสตรีไม่เว้นแต่ยุโรป หากแต่ในอเมริกา และอีกหลายภูมิภาค นอกจากนี้ ช่วงปี 1922 Chanel ได้เริ่มสนใจในการผลิตน้ำหอม โดยเริ่มจาก Chanel No. 5 เธอได้รับรางวัลมากมายและเป็นที่ไว้ใจในการดูแลเครื่องแต่งกายให้แก่สตรีชั้นสูงหลายคน ไม่ว่าจะเป็นระดับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน หรือแม้แต่สตรีอันดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกา เธอจบชีวิตเมื่อวันที่10 มกราคม ปี 1971 ที่นครปารีส ประเทศฝรั่งเศส House of Chanel ยังคงดำเนินธุรกิจต่อในความดูแลของ Karl Lagerfeld แม้ว่าเธอจะเสียชีวิตไปกว่า30 ปีแล้ว หากแต่สตรีใน ศตวรรษที่ 21 ก็ยังคงเลือก Chanel........
ชาแนล
น้ำหอม Allure 7.5ml/0.25oz
ชาแนล
สเปรย์น้ำหอม Allure EDT 100ml/3.3oz
ชาแนล
อัลเลอร์ เซ็นชูแอล บอดี้โลชั่น 200ml/6.8oz
ชาแนล
ชานซ์ โอ เดอ ทอยเลท สแปลช 50ml/1.7oz
ชาแนล
สเปรย์น้ำหอม Chance Eau Tendre EDT 50ml/1.7oz
- กลิ่นหอมฟรอร่า - ฟรุ๊ตตี้ สำหรับสาวเรียบง่าย
- สัมผัสกับคลื่นของความอ่อนโยน
- ยังสดใส ละเอียดอ่อนและกระตุ้นความรู้สึกกลิ่นโน๊ตของส้มโอและมะลิ absolute
- ล้อมรอบด้วยกลิ่นของหญิงสาวจากไวท์มัสค์
- เหมาะสำหรับทุกวัน
Christian dior
ประวัติความเป็นมาของ Dior
Dior เกิดขึ้นมาจาก Christian Dior คริสเตียน ดิออร์ เกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1905
เป็นนักออกแบบเสื้อผ้าชาวฝรั่งเศส เกิดที่เมือง Granville นอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส ศึกษาด้าน
การฑูตในกรุงปารีส Christian Dior เริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นในช่วงปี 1930 และเปิดร้านเสื้อผ้าของเขาเองในปารีส ในปี 1946 ใน ปี 1947 Christian Dior ได้เปิดตัวแฟชั่นแนวใหม่นามว่า “New Look” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นคือ เสื้อแบบไหล่แคบ และกระโปรงยาว ซึ่งมาแทนที่เสื้อแบบไหล่กว้างและกระโปรงสั้นแบบตรงในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เสื้อผ้าแบบ “New LooK” ได้ปฏิวัติวงการแฟชั่นสตรี และทำให้ปารีสกลายเป็นศูนย์กลางของโลกแฟชั่น การออกแบบของ Christian Dior ในยุคต่อมา ได้แก่ ชุดแซ็ค (ชุดสตรีปล่อยยาวไม่มีเข็มขัด) แบบทรงตรง ยังคงทำให้ Dior เป็นผู้นำแฟชั่นในระดับสากล จนเมื่อดิออร์เสียชีวิตลง เขามีร้านเสื้อผ้าถึง 24 ประเทศ และได้รับการสืบทอดต่อมาโดย Yves Saint Laurent, Marc Bohan, Gianfranco Ferre และ John Galliano
ปัจจุบัน Christian Dior ยังคงเป็นแบรนด์แนมชั้นนำในโลกแฟชั่นและมีผลิตภัณฑ์มากมายหลากหลาย ประเภท อาทิ เช่น เสื้อผ้าบุรุษและสตรี เครื่องหนัง เครื่องสำอาง ซึ่งล้วนได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย
ปัจจุบัน Christian Dior ยังคงเป็นแบรนด์แนมชั้นนำในโลกแฟชั่นและมีผลิตภัณฑ์มากมายหลากหลาย ประเภท อาทิ เช่น เสื้อผ้าบุรุษและสตรี เครื่องหนัง เครื่องสำอาง ซึ่งล้วนได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย
คริสเตียน ดิออร์
แอดดิก 2 โอ เดอ ทอยเลท สเปรย์ 50ml/1.7oz
- อบอวนไปด้วยกลิ่นนานนาชนิด น้ำหอมสำหรับสาวเซ็กซี่
- เติมเสน่ห์หญิงสาวแฝงด้วยความน่ารัก
- เย้ายวน
- ให้ความสดชื่นแจ่มใส นุ่มนวล
- หลายหลายกลิ่นหอมจากดอกไม้นานาชนิด
- grapefruit, bergamot, freesia,grenadine, muskและ sandalwood
- เหมาะสำหรับใช้ออกงานกลางวัน
คริสเตียน ดิออร์
แอดดิก โอ เดอ ปาร์ฟูม สเปรย์ 100ml/3.3oz
- น้ำหอมกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ กลิ่นหอมบริสุทธิ์
- คงไว้ซึ่งจิตวิญญาณของความรักและกิเลส
- ท็อปโน๊ตจาก กลิ่นดอกส้ม และลิลลี่
- ตามด้วยกลิ่น bourbon vanilla
- ลงท้ายด้วยกลิ่น sandalwood, nutmeg และamber
- กลิ่นหอมอ่อนช่วยให้ความสดชื่นตลอดวัน
- แนะนำสำหรับสาวทันสมัย
คริสเตียน ดิออร์
สเปรย์น้ำหอม Escale A Pondichery EDT 75ml/2.5oz
- โคโลญจ์กลิ่นหอมเหนือการเวลาพาคุณไปที่แปลกใหม่
- เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความหรูหรา & มีเสน่ห์เย้ายวน
- ด้วยกลิ่นของชาดำ accords,มะลิ Sambac
- ผสมกับไม้จันทร์, เปลือกกระวาน
- เหมาะสำหรับวันสบาย สวมใส่แบบบางเบา
คริสเตียน ดิออร์
สเปรย์น้ำหอม Hypnotic Poison Eau Sensuelle EDT 50ml/1.7oz
คริสเตียน ดิออร์
เพียว พอยซั่น เอลลิกเซียร์ โอ เดอ ปาร์ฟูม สเปรย์ 30ml/1oz